FAMILY DESCRIPTION |
P-S |
PALMAE(วงศ์ปาล์ม) | |
PALMAE (PALM) |
"ปาล์ม"เป็นคำที่ใช้เรียกพืชในวงศ์ PALMAEหรือ วงศ์ ARECACAE นับเป็นพืชวงศ์ใหญ่ที่สุด (รองจากหญ้า) ทั้งในแง่จำนวนของชนิด และปริมาณที่มีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ จำแนกได้กว่า 210 สกุล ราว 3,800 ชนิด เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวไม่แยกกิ่งก้านสาขา ขึ้นได้ดีในเขตร้อน และเขตอบอุ่น ทั่วโลก ประเทศไทยมี34สกุล 150 ชนิด เป็น พืชใบเลี้ยงเดี่ยว ลำต้นสูงใหญ่ใบออกเวียนรอบต้น ขนาดแตกต่างกันไป บางชนิดเลื้อยเป็นพุ่มหรือเป็นกอ ใบมีขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายขนนก บางชนิดมีรูปร่างคล้ายพัด และเส้นใบเป็นแบบขนาน ช่อดอกออกที่ซอกใบใกล้ปลายยอด แต่ละช่อมีดอกย่อยจำนวนมาก มีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและดอกแยกเพศอยู่ในต้นเดียวกัน หรือดอกแยกเพศอยู่ต่างต้นกัน ผลเมื่อสุก สีส้ม แดง หรือเหลืองบางชนิดมีผิวเกลี้ยง ผิวสาก หรือมีเปลือกเป็นเกล็ดหุ้มแข็ง ภายในมีเนื้อนุ่ม มีเมล็ด1-3เมล็ดต่อผลมีการจำแนกปาล์มออกเป็น 6 วงศ์ย่อย ได้แก่ Arecoideae (เต่าร้าง มะพร้าว ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ) Calamoideae (หวายชนิดต่างๆ) Ceroxyloideae (ปาล์มขวด, ปาล์มแชมเปญ ฯลฯ) Coryphoideae (อินทผลัม, ลาน, ตาล ฯลฯ) Nypoideae (จาก ชนิดเดียว) Phytelephantoideae (ปาล์มงาช้าง แถบอเมริกากลาง) |
Arecoideae มะพร้าว ปาล์มน้ำมัน เต่าร้าง ฯลฯ |
มะพร้าว Cocos nucifera |
ปาล์มน้ำมัน Elaeis guineensis |
เต่าร้าง Caryota mitis |
ศรีสยาม Arenga hookeriana |
หมากนเรศวร Wallichia disticha |
Calamoideae หวายชนิดต่างๆ |
หวายสยาม Calamus siamensis |
Ceroxyloideae ปาล์มขวด ปาล์มแชมเปญ |
ปาล์มแชมเปญ Hyophorbe lagenicaulis |
ปาล์มขวด Roystonea regia |
ปาล์มขุนหมากรุก Pseudophoenix vinifera |
ปาล์มราวีเนีย Ravenea rivularis |
ปาล์มไผ่ Chamaedorea seifrizii |
Coryphoideae อินทผลัม ลาน ตาล |
อินทผลัม Phoenix dyctylifera |
ลาน Corypha lecomtei |
ตาล Borassus flabellifer |
ปาล์มซาบาล Sabal causiarum |
ปาล์มเมตโต Sabal palmetto |
Nypoideae จาก(มีชนิดเดียว) |
จาก Nypa |
Phytelephantoideae (ปาล์มงาช้าง แถบอเมริกากลาง)ไม่มีรูป |
PANDANACEAE(ไม้วงศ์เตย-ลำเจียก) | |
มี3สกุล ประมาณ400ชนิด เป็นไม้เขตร้อนเจริญได้ดีบริเวณชายน้ำ มักเป็นพืชที่มีลำต้นเป็นแกนแข็งมีเนื้อไม้ ลักษณะใกล้เคียงกับปาล์ม แต่แตกกิ่งก้านสาขาได้ ใบมีรูปร่างคล้ายดาบ ขอบใบหยักแบบฟันเลื่อย ใบขดเวียนแบบเรียงเป็นเกลียว ดอกมีกาบประดับคล้ายใบขนาดเล็กรองรับข่อดอก ดอกย่อยมีขนาดเล็ก มีเพศเดียว ไม่มีกลีบรอง ผลเป็นผลกลุ่ม กลมรีขนาดใหญ่เมื่อสุกสีส้มแดง เมล็ดแข็งมีน้ำมัน | |
PANDANACEAE (PAND) |
ได้แก่ เตยหอม เตยทะเล การะเกดหนู |
เตยหอมPandanusamarylliforius |
เตยแก้ว Pandanus dubius |
เตยทะเล Pandanus foetidus |
เตยทะเล |
เตยด่างPandanus sanderi |
เตยด่าง |
เตยด่าง Pandanus veitchi |
เตยทะเล การะเกด P.tectorius |
ผลเตยทะเล |
PAPAVERACEAE(วงศ์ไม้ฝิ่น) |
|
PAPAVERACEAE (PAPA) |
ไม้ ล้มลุกที่สามารถกระจายพันธุ์ได้กว้างขวางอกเด่นสะดุดตา น้ำยางมีสี ดอกสมมาตรตามรัศมี กลีบดอกแยกกันมี4กลีบร่วงง่าย มีเกสรเพศผู้จำนวนมาก รังไข่เหนือวงกลีบมี1ช่อง เมื่อผลแห้งสามารถแตกฝักซึ่งเป็นรูอยู่ด้านบน ได้แก่แคลิฟอร์เนียปอบปี้ ฝิ่น ฝิ่นหนาม (Argemone mexicana) |
Eschscholzia califonica |
ดอกฝิ่น Papaver somniferum |
ผลอ่อน |
ผลฝิ่น |
PAPILIONACEAE(วงศ์ไม้ประดู่) |
|
PAPILIONACEAE (FABACEAE) (PAPIL) |
ประมาณ 482สกุล7,200ชนิด มีทั้งไม้ ต้น ไม้พุ่ม ไม้ล้มลุกและไม้เลื้อย อายุปีเดียวหรือหลายปี ที่รากจะมีปม ซึ่งเป็นที่อยู่ของบักเตรี ที่สร้างสารไนโตรเจนจากบรรยายกาศ ในต้นพืชมีสารแทนนินปะปนอยู่ ตามลำต้นและใบมักมีขนคลุม ใบเดี่ยวหรือใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว ดอกสมมาตรด้าข้างแบบดอกถั่ว กลีบเลี้ยง 5กลีบติดกันเป็นหลอด ปลายแยกจากกัน กลีบดอก5กลีบ กลีบบนใหญ่สุดคลุมกลีบดอกทั้งหมดไว้ กลีบคู่ข้างมักคอดตรงโคน กลีบคู่ล่างรูปท้องเรือ เกสรเพศผู้มี10เชื่อมติดกันเป็น2กลุ่ม หรืออาจเป็นกลุ่มเดียว รังไข่1มี1ช่อง ผลเป็นฝัก แตกหรือไม่แตก เมล็ดยาวรูปไข่หรือรูปกลม ตัวอย่างพืชในวงศ์นี้ได้แก่ Abrus precatorious มะกล่ำตาหนู ,Afzelia xylocarpa มะค่าโมง |
ทองกวาว |
ทองหลางลาย Erythrina variegata |
ประดู่บ้าน Pterocarpus indicus |
แคฝรั่ง Gliricidia sepium |
ประดู่ป่า Pterocarpus macrocarpus |
ชิงชัน Dalbergia oliveri |
กวาวคำ |
กวาวคำ |
แคบ้าน |
โสน Sesbania javanica |
เถาอัญชัน Phylasium bracteosum |
ถั่วคล้า Canavalia rosea |
ถั่วคล้า Canavalia rosea |
หมามุ่ย Mucuna gigantea |
ถั่วแปบช้าง Afgekia sericea |
ถั่วกรามช้าง |
Derris scandens |
ถั่วฝักยาว Vigna sinensis |
ถั่วลาย |
ถั่วแระ Cajanus cajan |
ถั่วผี Vigna luteola |
PASSIFLORACEAE(วงศ์ไม้กระทกรก) | |
PASSIFLORACEAE (PASS) |
มี 18 สกุล ประมาณ 600 ชนิด ไม้ เถาเลื้อยเนื้อแข็งมีมือเกาะ ต้นและใบมีกลิ่นค่อนข้างเหม็น มีขนแข็งปกคลุมลำต้นเป็นเหลี่ยม ใบเรียงสลับ ดอกสมมาตรตามรัศมี ระหว่าง กลีบดอกและชั้นรองเกสรเพศผู้มีชั้นของมงกุฎเป็นเส้นคล้ายเส้นด้าย ผลมีเนื้อฉ่ำน้ำ เมล็ดมีปุยเยื่อเป็นวุ้นหุ้มเมล็ดไว้ มีอาหารสะสม ได้แก่ เสาวรส สร้อยฟ้า ศรีมาลา กระทกรก Adenia penangiana ขี้กา |
ดาราพรรณราย P. violacea |
สร้อยฟ้าฮาวาย P.'blue-eyed Susan' |
เลดี้มาร์กาเร็ต P.'Lady Margaret' |
ศรีมาลา |
สร้อยไพลิน |
กระทกรก Passiflora foetidaP |
กระทกรก |
สร้อยฟ้า P. X alato-caerulea |
ลิ้นมังกร P.coccinea |
ดาวลดา P.trifasciata |
เสาวรส P. laurifolia |
ผักสาบ Adenia viridiflora |
PEDALIACEAE (ไม้วงศ์งา) | |
PEDALIACEAE (PEDAL) |
มี16สกุลประมาณ50ชนิดไม้ เนื้ออ่อนหรือไม้พุ่มมีขนปกคลุม ขนมีเซลล์ที่มีเมือก ใบเดี่ยวออกตรงข้าม ดอกสมบูรณ์เพศ สมมาตรด้านข้าง ดอกเดี่ยว หรือออกเป็นช่อแบบกระจุกซ้อน กลีบเลี้ยงติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น(4)5กลีบ กลีบดอกเชื่อมติดกันปลายแยกเป็น5กลีบ เกสรเพศผู้4มี2คู่ที่มีความยาวของก้านเกสรไม่เท่ากัน ก้านเกสรติดอยู่บนหลอดดอก รังไข่เหนือวงกลีบ คาร์เพลเชื่อมติดกันมี2ช่องออวูลจำนวนมาก ผลแห้งแตกกลางพูเช่น งา Sesamum indicum |
PERIPLOCACEAE | |
PERIPLOCACEAE (PERI) |
ไม้ พุ่มหรือไม้เลื้อยที่มีลำต้นเลื้อยพัน ใบเรียบเกลี้ยงออกตรงกันข้าม กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน หลอดกลีบเลี้ยงสั้นมาก ปลายแยกเป็น5กลีบ กลีบดอกเชื่อมติดกัน หลอดดอกสั้นปลายแยกเป็น5กลีบ เกสรเพศผู้5อัน ผลเป็นฝักแตกแนวเดียว ได้แก่เถาเอ็นอ่อน ชะเอมไทยเถา Myriopteron extensum |
เถาเอ็นอ่อน |
ดอกชะเอมไทยเถา |
เถาชะเอม |
ชะเอม |
PHYTOLACCACEAE(วงศ์พริกฝรั่ง) | |
PHYTOLACCACEAE (PHYT) |
มี2สกุล ส่วนใหญ่เป็นไม้พุ่มและไม้ล้มลุก มักพบในเขตร้อน ใบเรียงสลับขอบใบเรียบ ไม่มีกลีบดอก ได้แก่ พริกฝรั่ง |
|
พริกฝรั่ง Rivina humelis |
PINACEAE (วงศ์สนสามใบ) | |
PINACEAE (PIN) |
มี9สกุล194ชนิด ถิ่นกำเนิดประเทศในเขตหนาวของทวีปอเมริกาใต้ถึงอเมริกากลาง หมู่เกาะเวสต์อินดิส โซมาเลียและเกาะชวา ที่นิยมปลูกประดับในเมืองไทยได้แก่สกุล Pinus ลักษณะเป็นไม้ต้นและไม้พุ่มพวกสนอายุหลายปี เมื่อยังเล็กทรงพุ่มรูปไข่หรือรูปกรวย จากนั้นแผ่กิ่งก้านออก เปลือกต้นแตกเป็นร่อง ลำต้นมีน้ำยางภายใน ใบคล้ายเข็ม ไม่ผลัดใบ ใบออกเป็นกลุ่มเรียงเวียนรอบกิ่ง โคนดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้นกัน โคนติดทนนานจนเกิดเมล็ดและมีเนื้อไม้ ได้แก่สนสองใบ สนสามใบ สนสามใบ Pinus kesiya สนเข็มดำญี่ปุ่น Pinus thunbergii |
|
|
||
สนสามใบ สนเกี๊ะ สนเขา |
โคน(cone)ของสนสามใบ |
เปลือกต้นสนสามใบ |
สนเข็มดำญี่ปุ่น |
|
|
|
|
สนสองใบ |
เปลือกต้นสนสองใบ |
สนแคนารี่ |
สนแคนารี่ |
PIPERACEAE (วงศ์ไม้พริกไท-พลู) | |
PIPERACEAE (PIPER) |
พืช ในวงศ์นี้ทั้งหมดเป็นไม้เถาเลื้อยเนื้ออ่อนในเขตร้อน มี10-12สกุล ประมาณ1,300ชนิด บางชนิดเป็นไม้ล้มลุกอวบน้ำ ข้อลำต้นจะพองโป่งและอาจมีรากพิเศษแตกงอกออกมา ใบเรียงสลับ ขอบใบเรียบ เป็นมัน ใช้เป็นไม้ประดับได้ ดอกมีขนาดเล็กมาก ไม่มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยง เลื้อยได้โดยไม่อาศัยมือจับ ได้แก่พืชสกุลพริกไท เปปเปอร์โรเมีย
Peperomia dindygulensis ผักป้องแดง |
พริกไท Piper nigrum |
ดีปลี Piper chaba |
พลูนาค Piper crocatum |
พลูเงิน Piper sylvaticum |
P.obtusifolia cv.Green Gold |
P.obtusifolia |
Peperomia argyreia |
Peperomia serpens |
|
|
|
ชะพลู Piper sarmentosum |
พลู Piper betel |
ผักกระสังPeperomia pellucida |
PITTOSPORACEAE |
||||||||||||||||||||||
PITTOSPORACEAE (PITTO) |
มี ทั้งไม้ต้น ไม้พุ่ม จัดเป็นพวกไม่ผลัดใบ ใบเดี่ยวเรียงสลับ แผ่นใบหนาเหมือนแผ่นหนัง ดอกมีขนาดเล็ก บางชนิดมีดอกสะดุดตา ได้แก่ ผักไผ่ต้น Pittosporum nepaulense, มะขม P. kerrii
Japanese mock orange - Pittosporum tobira Karo- Pittosporum crassifolium Queensland Laurel- Pittosporum rhombifolium
|
|||||||||||||||||||||
PLUMBAGINACEAE(PLUM) |
|||||||||||||||||
PLUMBAGINACEAE |
เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กเนื้ออ่อน ใบเรียงสลับมีขนาดเล็กดอกเด่นมักเป็นช่อเชิงลด ได้แก่พวก เจตมูลเพลิงขาว เจตมูลเพลิงแดง พยับหมอก สแตติส
พยับหมอก Plumbago auriculata , ฟ้าคราม Ceratostigma stapfianum
|
||||||||||||||||
PODOCARPACEAE (วงศ์พญาไม้) |
|
PODOCARPACEAE (PODO) |
ไม้ ต้นใบแบนมักมีลักษณะคล้ายเกล็ด หรือรูปลิ่มแคบ ต่างเพศแยกต้นหรือต่างเพศร่วมต้น ดอกเพศผู้ออกที่ปลายกิ่งหรือซอกใบ ดอกเพศเมียออกตามซอกใบหรือปลายกิ่ง เป็นช่อรูปกรวยได้แก่ สนไผ่ ตัวอย่างพรรณไม้ในวงศ์นี้ Podocarpus lawrencii - Mountain Plum Pine Podocarpus macrophyllus 'Maki' Podocarpus polystachys - สนใบพาย สนอรหันต์ Podocarpus nerifolius- พญาไม้ Dacrydium elatum- สามพันปี หรือ สนสามพันปี หรือสนหางกระรอก |
Podocarpus lawrencii - Mountain Plum Pine | พญาไม้ | สนใบพาย สนอรหันต์ | สนใบพาย (ด่าง) |
Podocarpus lawrencii | สามพันปี | สามพันปี | Podocarpus macrophyllus 'Maki' |
POLEMONIACEAE | |
POLEMONIACEAE (POLE) |
เป็นพืชล้มลุกอายุปีเดียว หรือบางชนิดอาจหลายปี ดอกเด่นสีสดใส กลีบดอกมี5กลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด หรือรูปแตรได้แก่ ฟล็อกซ์ |
Flox | Flox | Flox | รักในสายหมอก |
POLYGONACEAE(วงศ์ผักไผ่น้ำ) | |
POLYGONACEAE (POLYG) |
มีประมาณ 32สกุล 800ชนิด เป็น กลุ่มไม้ต้น ไม้พุ่ม ไม้ล้มลุกและไม้เลื้อย ชอบขึ้นตามริมน้ำ หรือชื้นแฉะ ลำต้นมีน้ำฉ่ำรสค่อนข้างเปรี้ยวหรือเผ็ดซ่าเล็กน้อย ตามข้อมักมีลักษณะพิเศษ รอบข้อรอบๆลำต้น มีข้อปรากฏเป็นช่วงๆ ทำให้ลำต้นพองโป่งที่บริเวณนี้เห็นเด่นชัดใบเดี่ยวและมีหูใบ ดอกย่อยมีขนาดเล็กไม่มีกลีบดอก มีเพศครบ มีเพียงบางชนิดที่มีเพศเดียว กลีบรวม มี 5-6 กลีบแยกกัน สีเขียว ลักษณะคล้ายกลีบดอก อยู่เป็น 2 วง มีอายุยืนนาน บางชนิดกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด ผลรูปสามเหลี่ยมหรือกลมแบน เมล็ดขนาดเ็ล็กมีอาหารสะสมตัวอย่างพืชในวงศ์นี้ Antigonon leptopus พวงชมพู |
พวงชมพู Antigonon leptopus | องุ่นทะเล Coccoloba uviferu | เปาโลซานโตส |
ผักไผ่น้ำ | สร้อยทับทิม | เอื้องเพ็ดม้า |
POLYPODIACEAE(วงศ์ชายผ้าสีดา) |
|
POLYPODIACEAE (POLYP) |
เป็น เฟินที่มีความหลากหลายมากที่สุด เพราะประกอบด้วยเฟินหลายร้อยชนิด ส่วนใหญ่เกิดและกระจายพันธุ์ในเขตร้อนและกึ่งร้อน ลักษณะเด่นของเฟินวงศ์นี้คือ มีเหง้าเลื้อยเช่นเฟินอิงอาศัยทั้งหลาย ไม่มีลำต้นเด่นชัด ไม่มีดอก ขยายพันธุ์โดยใช้สปอร์ ใบเดี่ยวขอบใบเรียบหรือหยักแบบพูลึก หรือ หรือเป็นใบประกอบแบบขนนก และเส้นใยสานเป็นร่างแห ซอไรรูปร่างกลมหรือใหญ่ บางครั้งจมในแอ่งของผิวใบ หรือขนานตามยาวใกล้เส้นใบหลัก สกุลเด่นของเฟินวงศ์นี้เท่าที่พบและมีการปลูกเลี้ยงกันอยู่ในประเทศไทยได้แก่ กระแตไต่ไม้(Drynaria),กูดเฟือย ( Drynaria rigicula) ชายผ้าสีดา(Platycerium) , ห่อข้าวย่าบา(P. wallichii) ลิ้นกุรัม(Pyrrosia) ตาลมังกร(Lecanopteris) กูดเวียน(Aglaomorpha) กูดอ้อม (Aglaomorphacoronans) ลิ้นผีไม้ (Microsorum), แก๊ปปืน (Phymatosorus) หางหนู (Belvisia), เฟินยายแพก (Phymatosorus scolopendrium) |
ชายผ้าสีดา(Platycerium) | ห่อข้าวย่าบา | เฟินหูช้าง P. elephantotis | P. holtumii | เขากวางใบตั้ง |
ลิ้นผีปรือไม้ | ลิ้นกุรัมด่าง | กูดหางนกกระลิง | หางหนู |
กูดอ้อม | กูดเฟือยDrynaria rigicula | เฟินแก๊ปปืน | P. Scolopendrium | กระแตไต่ไม้ |
PONTEDERIACEAE(ไม้วงศ์ผักตบ) | |
PONTEDERIACEAE (PONT) |
มี 7สกุล 30ชนิด พืช กลุ่มนี้ขึ้นในที่น้ำขังแฉะเป็นวัชพืชน้ำ มีอายุหลายปี มีรากหยั่งดินหรือลอยน้ำเป็นไม้ล้มลุก ขึ้นได้ดีและขยายพันธุ์ได้รวดเร็วมากในเขตร้อน ลำต้น เป็นลำสั้น ต้น มี stolon มีรากฝอยคลุมอยู่หนาแน่น รากอาจหยั่งดินหรือลอยน้ำเป็นใบเดี่ยว แผ่นใบกว้าง ก้านใบยาว ตอนโคนแผ่ออกเป็นกาบหุ้มลำต้น ตอนกลางของก้านใบมักพองโป่ง มีโพรงอากาศอยู่ภายใน พยุงให้ต้นพืชลอยน้ำ ดอกมีสมมาตรไม่เท่ากันดอกย่อยมีกลีบประดับรองรับ มีเพศครบ สีสันสวยงามแต่ดอกอยู่ไม่นานไม่ทน ได้แก่ ผักตบชวา ผักตบไทย โพลง
ผักตบชะวา Eichhornia crassipes |
ต้นโพลง | ผักตบไทย Monochoria hastata | ผักตบไทย | ช่อครามน้ำ |
ผักตบไทย Monochoria hastata | ผักตบชะวา Eichhornia crassipes | ขาเขียด Monochoria vaginalis | ต้นโพลง Monochoria elat |
PORTULACACEAE(วงศ์ไม้ผักเบี้ย) |
|
PORTULACACEAE (POR) |
มี 19 สกุล ประมาณ 500 ชนิด เป็นพืชล้มลุกลำต้นและใบอวบน้ำฉ่ำน้ำ มีอายุปีเดียวหรือหลายปีการเติบโตของลำต้นเป็นลักษณะแผ่กระจาย ผิวเป็นมัน ใบเดี่ยว อวบน้ำ ติดเรียงแบบสลับหรือตรงกันข้ามมีเยื่อก้านใบลักษณะเป็นเส้นขน ดอกมีอายุการใช้งานสั้น กลีบดอกมี6กลีบและมีกลีบเลี้ยง2กลีบมีอายุคงทน สีเขียว มีเพศครบ รูปทรงดอกมีสัดส่วนสมดุลย์ กลีบดอกบางนิ่ม ช้ำง่าย มีสีสดเห็นได้ชัดเจน บานเวลาที่มีแดดจัด เหี่ยวร่วงง่าย กลีบดอกแยกกัน หรือติดกันเล็กน้อยที่ฐาน พืชตัวอย่างในวงศ์นี้ได้แก่คุณนายตื่นสาย แพรเซี่ยงไฮ้ โสมญี่ปุ่น โสมไทย แพรเซี่ยงไฮ้ Portulaca grandiflora |
แพรเซี่ยงไฮ้ | คุณนายตื่นสาย | โสมกินใบ |
โสมคน |
โสมเกาหลี |
โสมไทบ |
PROTEACEAE(วงศ์เหมือด) | |
PROTEACEAE (PROT) |
พันธุ์ไม้วงศ์นี้มีทั้งไม้ต้นและไม้พุ่ม ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ไม้ที่กระจายพันธุ์อยู่บนเขาสูง หรือป่าดิบเขา จึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย มีประมาณ 60 สกุล 1,300 ชนิด กระจายพันธุ์ในประเทศไทย 2 สกุล 8 ชนิด เป็น ไม้ต้นและไม้พุ่มขึ้นได้ดีในซีกโลกใต้ ใบเรียงสลับเนื้อใบแข็ง ดอกมีลักษณะเป็นช่อกระจุกแน่น มีโครงสร้างดอกที่มีลักษณะพิเศษได้แก่ สนอินเดีย คิงโปรเทีย เหมือดคนตัวผู้ เหมือดตบ เดื่อหิน Helicia nilagirica เหมือดคนตัวผู้ เดื่อหิน Helicia nilagirica พรมคต Heliciopsis terminalis Protea aurea Protea cynaroides - King Protea, Giant Protea Grevillea banksii - Red Flowered Silky Oak Grevillea robusta - Silk Oak สนอินเดีย |
Grevillea robusta | Grevillea robusta | Grevillea banksii | พรมคต |
Protea cynaroides | Protea cynaroides | Protea aurea |
เหมือดคนตัวผู้ | Helicia nilagirica | เดื่อหิน Helicia nilagirica |
PTERIDACEAE(วงศ์กูดสามง่าม กูดหางค่าง) |
|
PTERIDACEAE (PTERI) |
เฟิน ในวงศ์นี้มีทั้งขึ้นบนดิน หรือเฟินอิงอาศัย และเฟินน้ำ ส่วนใหญ่ขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรงหรือเลื้อย มีขนหรือเกล็ด รากฝอยจะงอกเลื้อยเกาะกับวัสดุปลูก เหง้าตั้งเลื้อย หรือทอดนอน ตัวใบมักเป็นใบประกอบแบบขนนกหรืออาจเป็นใบเดี่ยว ใบแบบตีนเป็ด ใบแบบนิ้วมือ ใบแผ่ตามรัศมี เส้นใบโดยมากแตกง่ามอิสระ เฟินในวงศ์นี้พบในเขตร้อนทั่วโลกมี11สกุลในอเมริกาและ9สกุลในเอเซียและแอฟริกา ในประเทศไทยมี3สกุลคือ สกุลเฟินเงิน(Pteris), สกุลปรงทอง ปรงไข่(Acrostichum), สกุล Stenochalaena แพร่กระจายอยู่บริเวณป่าโกงกาง หรือบริเวณเขาสูง ตัวอย่างเฟินในวงศ์นี้ |
เฟินหิรัญปีกสกุณา Pteris sp |
กูดตาล Pteris vittata |
เฟินอินเดียด่าง Pteris argyrea |
ปรงทอง ปรงไข่ Acrostichum aureum |
ปรงหนู Acrostichum speciosum |
PUNICACEAE(วงศ์ไม้ทับทิม) | |
PUNICACEAE (PUNI) |
มี1สกุล 2ชนิด เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ตามกิ่งและปลายยอดมักมีหนามแหลมยาวติดอยู่ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเป็นกระจุก หรือติดเรียบแบบตรงกันข้ามรูปใบรีขอบขนาน ช่อดอก มีเพศครบ รูปทรงได้สัดส่วนสมดุลย์ออกที่ปลายหรือซอกกิ่ง กลีบรอง มี 5-6 กลีบ ติดกันเป็นหลอด อยู่ที่คอหลอดของกลีบรองปลายผายแยกเป็นแฉกมีสีส้มแดงหรือสีแสด เนื้อกลีบเหนียวคล้ายหนัง มีสภาพคงทน กลีบดอก มีสีส้มแดงหรือสีแสด เนื้อกลีบนิ่ม บาง และยับย่น ร่วงเร็ว ดอกใหญ่ มีผลที่รับประทานได้ ได้แก่ ทับทิม ทับทิมหนู |
ทับทิมหนู | ทับทิม |
RANUNCULACEAE(วงศ์พวงแก้วกุดั่น) | |
RANUNCULACEAE (RANUN) |
มี40สกุล 1,500ชนิด เป็นไม้ล้มลุก เป็นไม้ล้มลุก ไม้เลื้อยหรือไม้พุ่ม เนื้อไม้อ่อน อายุปีเดียวหรือหลายปี ขึ้นได้ดีในเขตอบอุ่นและเขตหนาว ใบ เป็นใบเดี่ยวหรือใบประกอบ ติดเรียงแบบสลับ ดอกเป็นดอกเดี่ยวหรือออกเป็นช่อ ดอกมีเพศครบรูปทรงมีสัดส่วนสมดุลย์หรืออาจไม่มี บางชนิดที่ท้ายดอกมีติ่งหรือถุงย้อย กลีบรอง มี 5-3 กลีบ ลักษณะคล้ายกลีบดอก ติดเรียงซ้อนเหลื่อมกัน กลีบดอก มี 5 กลีบ หรือมากกว่า อยู่แยกกัน บางชนิดแปรรูปไปเป็นต่อมน้ำหวาน มีกลิ่นหอม เกสรตัวผู้ มีจำนวนมาก ติดเรียงแบบเวียน เกสรตัวเมีย มีจำนวนมาก อยู่แยกกัน แต่ละอันมี 1 ห้อง เม็ดไข่มีจำนวนไม่แน่นอนเป็นไม้ที่นิยมสำหรับนำมาตกแต่งสวน ได้แก่ พวงแก้วมณี Clematis paniculata กำปองหลวง(Clematis buchnaniana) ,กำปองน้อย (Clematis subumbellata) เทพอัปสร Delphinium scabriflorum บั้งม่วงเชียงดาว Thalictrum siamense |
พวงแก้วมณี | พวงแก้วมณี | พวงแก้วกุดั่น | พวงแก้วกุดั่น |
พวงแก้วสิกขิม | พวงแก้วสิกขิม | เทพอัปสร |
บั้งม่วงเชียงดาว |
กำปองน้อย | กำปองน้อย | กำปองหลวง | กำปองหลวง |
RHAMNACEAE(วงศ์ไม้พุทรา) | |
RHAMNACEAE (RHAM) |
ประมาณ50สกุล 600ชนิด ไม้ ต้นหรือไม้พุ่ม บางชนิดมีมือจับหรือขอเกี่ยวสำหรับเลื้อยเกาะ หายากที่จะเป็นพืชล้มลุก บางชนิดเป็นไม้เลื้อยตามกิ่งก้านมีหนามงุ้มแหลม มักจะพบสารไกลโคไซด์ และอัลคาลอยด์ ใบเรียงสลับหรือตรงข้าม ดอกขนาดเล็กสมบูรณ์เพศ กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยก4-5กลีบ หรือไม่มี เกสรเพศผู้4-5ผลมีหลายแบบผลมีเมล็ดแข็ง ได้แก่ คันทรง Colubrina asiatica |
พุทราป่า Gouania obtusifolia | พุทรา Zizyphus mauritiana | |
พุทราจีน Zizyphus jujuba | เล็บเหยี่ยว Zizyphus oenoplia | เล็บเหยี่ยว Zizyphus oenoplia |
รางแดง Ventilago denticulata | รางแดง Ventilago denticulata | มะควัดZizyphus rugosa | มะควัดZizyphus rugosa |
RHIZOPHORACEAE(วงศ์ไม้โกงกาง) | |
RHIZOPHORACEAE (RHIZO) |
พรรณไม้วงศ์นี้ทั่วโลกประมาณมี15สกุลประมาณ135ชนิด ประเทศไทยพบ7สกุล16ชนิด เป็นไม้ ยืนต้นไม้พุ่มที่มักพบริมทะเล ไม่ผลัดใบ ขึ้นอยู่ตามชายเลนที่มีน้ำขึ้นน้ำลงเป็นประจำ ทั้งน้ำกร่อยและน้ำเค็ม มีรากพิเศษ เมื่อน้ำหนุนขึ้นสูง รากเหล่านี้จะจมอยู่ใต้ระดับน้ำและรากเหล่านี้มักจะเจริญดีทางด้านตะวันออก ของลำต้นหรือด้านใต้ลม มีเพียงบางชนิดพบในป่าดงดิบและป่าเบญจพรรณ แตกกิ่งมาก ใบออกแบบตรงข้าม เป็นใบเดี่ยว ขอบใบเรียบ เนื้อใบเหนียวอวบหนาเป็นมัน มีเยื่อก้านใบ ประกบกันเป็นรูปกรวย ปลายแหลมยาวหลุดร่วงง่ายเมื่อใบมีอายุมากขึ้น ดอกออกเป็นช่อแบบช่อกระจุก อาจมีดอกเดี่ยวบ้าง สมบูรณ์เพศ บางครั้งฐานดอกยืดออกเป็นรูปถ้วย กลีบเลี้ยงแข็งหนา โคนเชื่อมกันเป็นหลอดรูปถ้วย ปลายแยกเป็นแฉกเรียงจรดสลับกันกับกลีบดอก เนื้อผิวด้านในมักมีสีแดง กลีบรองนี้มักจะแห้งและแข็ง มีสภาพคงทนดีมาก กลีบดอก แยกกัน มีจำนวนเท่ากลีบเลี้ยง ม้วนบิดไปทางเดียวกันขณะเป็นดอกตูม ขนาดเล็กกว่ากลีบเลี้ยง จำนวนเกสรเพศผู้จะเท่ากับจำนวนกลีบดอก ผลแบบมีเนื้อ แห้งไม่แตกมีเมล็ด1เมล็ด เมล็ดที่ขึ้นบนป่าชายเลน มักมีเยื่อหุ้มเมล็ดสีเขียว ทรงกระบอก งอกตั้งแต่อยู่บนต้น มีแหล่งสะสมอาหาร ตัวอย่างพืชวงศ์นี้ได้แก่ได้แก่ โกงกางใบเล็ก Rhizophora apiculata, โกงกางใบใหญ่ Rhizophora mucronata ถั่วขาว Bruguiera cylindrica |
โกงกางใบเล็ก | โกงกางใบเล็ก | โกงกางใบใหญ่ | โกงกางใบใหญ่ |
รังกะแท้ Kendelia candel | รังกะแท้ l | ถั่วขาว | พังกาหัวสุมดอกช่อ |
พังกาหัวสุมดอกแดง | พังกาหัวสุมดอกขา | โปรงขาว | โปรงแดง |
เฉียงพร้านางแอ Carallia brachiata |
รู้จักในแง่ของไม้ป่าชายเลน แต่ร้อยละ80พบในป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น ที่ระดับความสูงตั้งแต่ระดับน้ำทะเลจนถึงความสูง1,000เมตร |
ROSACEAE(ไม้วงศ์กุหลาบ) | |
ROSACEAE (ROS) |
มี ประมาณ 115 สกุล ประมาณ 3,200 ชนิด เป็นไม้ไม่ผลัดใบหรือผลัดใบระยะสั้น มีทั้งเป็นไม้ล้มลุกไม้พุ่มและไม้ต้น บางชนิดเป็นไม้เลื้อย ลำต้นมักมีหนามหรือขนแข็งคลุม ใบเรียงแบบสลับ บางชนิดมีเยื่อก้านใบใหญ่ติดอยู่กับโคนก้านใบ บางชนิดเยื่อก้านใบร่วงเร็ว เป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อดอกแบบ ช่อกระจุก ดอกสมบูรณ์เพศ ออกที่ปลายยอดหรือซอกกิ่ง รูปทรงดอกมีสัดส่วนสมดุลย์มีเพียงบางชนิดที่มี ฐานรองดอกขยายเป็นถ้วยโค้งขึ้นมา สตรอเบอรี่ป่า Duchesnea indica |
กุหลาบมอญ | นางพญาเสือโคร่ง | Prunus 'Sato' |
แตงชั่ง | ท้อ | แอปเปิ้ล |
ไข่ปูลิ้นแลน | มะมื่อ (มะพอก) | มะมื่อ(มะพอก) |
RUBIACEAE(ไม้วงศ์เข็ม) | |
RUBIACEAE (RUB) |
มีประมาณ 500 สกุล ประมาณ 7,000 ชนิด เป็น พืชเขตร้อนทั้งหมด มีตั้งแต่ไม้ล้มลุกขนาดเล็กจนถึงไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ บางชนิดเป็นไม้เลื้อย บางชนิดมีหนามตามลำต้นและกิ่ง เป็นพืชที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ ใบเรียงตรงข้ามและมีหูใบอยู่ระหว่างก้านใบ หรือออกเป็นกลุ่มเรียงสลับกันตอนปลายของกิ่ง ขอบใบเรียบ เนื้อใบกรอบ แข็งหรือเหนียว ผิวใบด้านบนมักเป็นมัน ดอกติดกันเป็นหลอดปลายแยกเป็น4-5กลีบ รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ บางชนิดกลีบรองบางกลีบจะแปรลักษณะไปเป็นแผ่นกลีบที่มีสีสดเห็นชัด ตัวอย่างพืชในวงศ์นี้ ได้แก่ เข็ม กระทุ่มนา กาแฟ ดอนญ่า Anotis trimera น้ำนมราชสีห์ |
คัดเค้า | คำมอกน้อย | คำมอกหลวง | ใบต่างดอก | ดอนญ่า |
เข็มญี่ปุ่น Ixora stricta | เข็มอินเดีย Pentas lanceolata | เข็มดาววาว Clarkella siamensis | เข็มดอย |
กาแฟอาราบิคา Coffea arabica |
กาแฟโรบัสตา Coffea canephora | Gardenia collinsae | นางแย้มจีน |
Gardenia hygrophila | สะแล่งหอมไก๋ | Gardenia jasminoides พุดซ้อน | คันคาก | ค่างเต้น |
|
|||||||||||
RUTACEAE(วงศ์ไม้ส้ม) | |||||||||||
RUTACEAE (RUTA) |
มีประมาณ 140สกุล 1,600ชนิด เป็น ไม้ต้นและไม้พุ่ม ขึ้นได้ดีในเขตร้อนและกึ่งร้อน ทุกส่วนของต้นพืชมีกลิ่นน้ำมันหอมระเหย ตามกิ่งก้านมักมีหนามขนาดใหญ่ ยาว แหลม ใบเดี่ยวหรือใบประกอบมีต่อมน้ำมันเป็นจุดโปร่งแสง เนื้อใบเหนียวและมักมีอายุคงทน ดอกเกิดที่ปลายช่อหรือซอกกิ่ง ดอกย่อยมีสัดส่วนสมดุลย์ มีเพศครบ ฐานรองดอกบริเวณใต้รังไข่จะมีเนื้อเยื่อยกเป็นวงขอบนูน กลีบรอง มี 4-5 กลีบ แยกหรือติดกัน กลีบดอก มี 4-5 กลีบ แยกกัน มีหลายชนิดมีผลรับประทานได้ และมีกลิ่นหอม ตัวอย่างพืชในวงศ์นี้้ Aegle marmelos มะตูม |
||||||||||
ส้มกัมควอต | ส้มแก้ว ส้มจี๊ด | ดอกส้มโอ | ส้มมือ |
ส้มเขียวหวาน | มะขวิด | ดอกมะขวิด | มะตูม | ดอกมะตูม |
มะแขว่น | มุจลินทร์ | แก้ว | มะนาวผี |
SALICACEAE(วงศ์สนุ่น) | |
SALICACEAE (SALIC) |
มี4สกุลประมาณ300ชนิด เจริญได้ดีในเขตอบอุ่นและเขตหนาว เป็นไม้ ต้นหรือไม้พุ่ม ใบเรียงสลับ มักจะผลัดใบ มีเพศแยกกัน กิ่งแขนงมักลู่ลงเป็นใบเดี่ยว ติดเรียงแบบสลับ รูปใบมีตั้งแต่แคบยาวไปจนถึงรูปใบโพ มีเยื่อก้านใบแต่ร่วงเร็ว ดอก แยกเพศ วงกลีบเลี้ยงไม่มี ดอกอัดตัวกันแน่นเป็นช่อแบบหางกระรอก ผลแบบมีเนื้อหลายเมล็ด หรือผลแห้งแตกกลางพู มี2-4แคปซูล เมล็ดมัน มีเยื่อหุ้มเมล็ดในชนิดพันธุ์ที่อาศัยลมแพร่พันธุ์ เมล็ดมักมีขนาดเล็ก อายุสั้น และมีกระจุกขนที่เจริญมาจากรกมีแหล่งสะสมอาหาร ได้แก่ตัวอย่าง หลิว Salix babylonica |
หลิว Salix babylonica | สนุ่น | สนุ่นSalix tetrasperma | ตะขบน้ำ | ตะขบน้ำ |
SAMBUCACEAE | |
SAMBUCACEAE (SAMBU) |
ไม้ พุ่ม บางครั้งเป็นไม้รอเลื้อยเนื้อแข็ง พบจำนวนน้อยมากที่จะเป็นไม้ล้มลุก ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามหายากที่จะเป็นใบประกอบแบบขนนก ช่อแบบช่อกระจุก ดอกสมบูรณ์ดพศ กลีบเลี้ยงมี5กลีบ ขนาดเล็ก วงกลีบดอกมี5กลีบ เกสรเพศผู้มี5หรือ4 ผลมีเนื้อหลายเมล็ดหรือผลมีเมล็ดแข็ง ได้แก่พวงไข่มุก Sambucus simpsonii, สะพ้านก๊น Sambucus javanica |
พวงไข่มุก Sambucus simpsonii | Sambucus javanica |
SAPINDACEAE(วงศ์ไม้ลำไย) | ||||
SAPINDACEAE (SAPIN) |
มี ทั้งไม้ต้น ไม้พุ่มและไม้เลื้อย ขึ้นได้ดีในเขตอบอุ่น ใบเรียงสลับ ใบประกอบแบบขนนก หรือแบบฝ่ามือ ดอกมีขนาดเล็ก ผลแบบต่างๆเช่นลิ้นจี่ ลำไย เงาะ มะหวด ขี้หนอน
|
ลำไย Dimocarpus longan |
ลำไยปิงปอง | ลำไยป่า | มะหวด Lepisanthes rubiginosa |
ตะคร้อหนาม | ตะคร้อ | ประคำดีควาย | แดงน้ำ Pometia pinnata | แดงน้ำ |
Harpullia arborea | หอมไกลดง | ไม้เกื้อดง Michocarpus pentapentalus | คอแลน Nephelium hypoleucum |
ต้นมะหวด | เงาะ | ลิ้นจี่ Litchi chinensis | ชำมะเลียง | Lepisanthes fruticosa |
SAPOTACEAE (วงศ์ไม้ละมุด) | ||||
SAPOTACEAE (SAPOT) | พรรณไม้วงศ์นี้ทั่วโลกมีประมณ53สกุล975ชนิดกระจายพันธุ์ทั่วเขตร้อน พบน้อยในเขตอบอุ่นประเทศไทยพบประมาณ9สกุล40ชนิด เป็นไม้ ต้นหรือไม้พุ่ม มักมีน้ำยางขาวคล้ายน้ำนม มักมีขนปกคลุมตามส่วนต่างๆ ปลายขนแยกเป็น2แฉก บางครั้งไม่แยกและลดรูปหายไป ใบเดี่ยวเรียงสลับ หายากที่ใบจะตรงข้าม ดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อกระจุก ดอกสมบูรณ์เพศ กลีบเลี้ยง 4-12 กลีบ กลีบดอกเชื่อมติดกัน จำนวนกลีบดอกเท่ากับจำนวนกลีบเลี้ยง เกสรเพศผู้2-3ชั้น ชั้นละ4-5 เกสรเพศเมีย 1 ผลมีเนื้อหนึ่งถึงหลายเมล็ด ตัวอย่างพืชในวงศ์นี้
|
พิกุล Mimosops elengi |
พิกุล | ละมุด Manilkara kauki | ละมุดสีดา Madhuca esculenta |
มะยาง | มะยาง | เกด Manilkara hexandra | เกด Manilkara hexandra |
SCHIZAEACEAE(วงศ์ลิเภา) | ||||
SCHIZAEACEAE (SCHIZ) |
ในวงศ์นี้ประกอบด้วย5สกุล จัดเป็นกลุ่มเฟินบนดินที่มีขนาดต่างๆกัน เหง้าสั้นทอดนอน เลื้อยได้ขึ้นได้ดีในเขตร้อน ใบเดี่ยวหรือใบประกอบแบบขนนก หรือเป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ บางครั้งมีลักษณะคล้ายเส้นด้าย บางชนิดก็มีใบคล้ายปาล์ม มีสปอร์สำหรับขยายพันธุ์ ได้แก่ ตัวอย่างชนิดพืชในสกุลตานกล่อมและสกุลย่านลิเภา
|
ลิเภาหางไก่ Lygodium circinnatum | ลิเภาใหญ่ | ตานกล่อม Schizaea dichotoma |
SCROPHULARIACEAE(วงศ์กรดน้ำ) | ||||
SCROPHULARIACEAE (SCROP) |
ส่วนใหญ่เป็นไม้ล้มลุกหรือไม้พุ่มขนาดเล็ก ทั่วโลกมีประมาณ210 สกุล 5,100ชนิด ขึ้นได้ดีในเขตอบอุ่นและเขตร้อน ใบเรียงแบบตรงข้าม มีลักษณะอ่อนนุ่ม ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม ดอกสมมาตรด้านข้าง สมบูรณ์เพศ มีกลีบประดับรองรับ กลีบรอง มี 5 กลีบติดกันที่ฐาน ปลายแยกเป็นแฉกลึก
|
แวววิเชียร Anglonia salicarifolia | Anglonia salicarifolia |
นีออน | ชมพูนุท |
บลูฮาวาย | แววมยุรา Torenia fournieri |
|
ชมพูพาน Wightia speciossima มักอาศัยบนไม้อื่นหรือขึ้นบนหิน ในภาคเหนือมีเพียง1ชนิดที่เป็นไม้ยืนต้น |
SELAGINELLACEAE (วงศ์กนกนารี) | ||||
SELAGINELLACEAE (SELAG) |
วงศ์ ที่มีวิวัฒนาการใกล้เคียงกับเฟินแต่ต่ำกว่า พืชในวงศ์นี้ไม่ใช่เฟินที่แท้จริง จัดเป็นญาติใกล้ชิดกับเฟิน พบได้ทั่วประเทศไปในป่าที่มีความชื้นสูง เลื้อยไปตามพื้นดิน ใบค่อนข้างละเอียด มีมากมายหลายชนิด เป็นไม้เนื้ออ่อนทอดเลื้อยคลุมดิน หรือลำต้นตั้ง ขยายพันธุ์โดยใช้สปอร์
|
มอสสายรุ้ง | กนกนารีทักษิณ | selaginella cuspidata | Selaginella tamariscine |
SIMAROUBACEAE(วงศ์ราชดัด) | ||||
SIMAROUBACEAE (SAMA) |
เป็นวงศ์ขนาดเล็ก กระจายตามแนวศูนย์สูตรทั่วโลกมีประมาณ110ชนิด ไม้ พุ่มหรือไม้ต้น ผลัดใบหรือไม่ผลัดใบ ไม่มียาง ใบเรียงสลับ เป็นใบประกอบแบบขนนกแบบมีใบย่อยตรงข้าม หายากที่เป็นใบเดี่ยว มักเป็นดอกแยกเพศแยกต้น พบน้อยที่จะเป็นดอกสมบูรณ์เพศ เป็นช่อออกในซอกใบ กลีบเลี้ยง 3-5กลีบเชื่อมกันที่โคน กลีบดอก3-5กลีบแยกกัน บางครั้งไม่มีกลีบดอกครบรอบ เกสรเพศผู้จำนวนเท่ากับกลีบดอกหรือเป็นสองเท่า ผลแห้งแตก ผลปีกเดียว หายากที่ผลมีเนื้อหลายเมล็ด มีหลายชนิดที่มีเปลือกรสขมใช้เป็นยากลางบ้าน ได้แก่ คนทา ประทัดใหญ่
|
คนทา Harrisonia perforata | คนทา Harrisonia perforata | คนทา Harrisonia perforata |
ราชดัด Brucea javanica | มะยมป่า Ailanthus triphysa | มะยมป่า Ailanthus triphysa | กอมขม ดีงูต้น |
ประทัดจีนQuassia amara | ปลาไหลเผือก Eurycoma longifolia |
SOLANACEAE(วงศ์มะเขือ) | |
(SOL) |
ประมาณ 90 สกุล 2,300 ชนิด มี ทั้งไม้เลื้อย ไม้ต้น และไม้พุ่มใหญ่ บางชนิดเป็นไม้มีพิษ ใบเดี่ยว ติดเรียงแบบสลับ ขอบใบเป็นมุมหยักเว้าบางชนิดมีขนหรือหนาคลุมที่ผิวใบและกิ่งก้าน ฐานใบมักไม่เท่ากัน ทรงดอกกลม สมบูรณ์เพศ มักมีสีขาว เหลือง หรือม่วง กลีบรองดอก มี 5 กลีบ ติดกันที่โดนกลีบ ปลายแยกเป็นแฉก มีสภาพคงทน Brunfelsia americana พุดตะแคง |
|
|||
มะเขือต้น | พุดสามสี | พุดตะแคง | พิทูเนีย |
ทิวาราตรีCestrum Diurnum | ราตรี | ราตรีสีทอง |
SONNERATIACEAE(วงศ์ไม้ลำพู) | |
SONNERATIACEAE (SONN) |
วงศ์เล็กทั่วโลกพบเพียง8ชนิด เป็นไม้ ต้น มักเป็นไม้ชายเลนหรือป่าดิบชื้น ใบเดี่ยวออกตรงข้ามเป็นวงรอบข้อ ดอกเดี่ยว หรือดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุก ออกที่ปลายกิ่ง ดอกใหญ่และสมบูรณ์ดพศ กลีบเลี้ยง4-8กลีบ จรดกัน กลีบดอก4-8กลีบหรือไม่มีกลีบดอก เมื่อตูมดอกจะยับย่นก้านเกสรเพศเมียโค้งงอ รังไข่เหนือวงกลีบมีฐานรูปถ้วย คาร์เพลเชื่อมติดกัน ออวูลจำนวนมาก ผลเป็นผลเนื้อหลายเมล็ด หรือเป็นผลแห้งแตก ได้แก่ Duabanga grandiflora ลำพูป่า,ตุ้มเต๋น |
ลำพูป่า Duabanga grandiflora | ลำพูป่า Duabanga grandiflora | Sonneratia caseolaris ลำพู | Sonneratia caseolaris ลำพู |
ลำแพน | Sonneratia ovata ลำแพน | ลำแพน ทะเล | ลำแพน ทะเล |
STERCULIACEAE(วงศ์ปอ) | |
STERCULIACEAE (STER) |
ประมาณ 60 สกุล 750 ชนิด ส่วนใหญ่เป็นพืชเขตร้อน ไม้ต้นหรือไม้พุ่มหรือไม้เลื้อยที่มีความสวยงาม มักมีขนคลุมกิ่งก้าน ใบ ผล เปลือกในมียางเมือก ใบเดี่ยวหรือใบประกอบแบบนิ้วมือเรียงตัวแบบเรียงสลับในระนาบเดียวหรือวนรอบ มักจะมีหูใบชัดเจนและมีขนรูปดาว กลุ่มหนึ่งของวงศ์นี้มีดอกปกติคือมีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ5กลีบ ขณะที่อีกกลุ่มไม่มีกลีบดอกแต่มีกลีบเลี้ยงที่มีสีสันสดใสซึ่งมักเชื่อมกันที่ฐานกลีบ บางชนิดดอกใหญ่เด่นสะดุดตา บางครั้งดอกเกิดตามลำต้น ดอกแยกเพศไม่มีกลีบดอก แต่มีกลีบเลี้ยงที่สีสดใส กลีบรอง มี 3-5 กลีบ ติดกันที่ฐาน กลีบดอก มี 5 กลีบ แต่อาจลดรูปจนไม่ปรากฏให้เห็น โคนกลีบเชื่อมติดกับหลอดก้านเกสรตัวผู้ ขณะดอกตูมกลีบมักจะบิดม้วนเมื่อดอกบานแล้วกลีบจะโรยผลเหนียวหรือแข็งออกเป็นช่อ เมล็ดบางชนิดมีปุยเยื่อหุ้ม หรือแผ่เป็นปีกครีบ ได้แก่ ตัวอย่างชนิดพืช |
สลักกะพาด จำปาแขก |
พุงทะลาย(สำรอง) | ปอเลียง เลียงฝ้าย | ปอเลียง เลียงฝ้าย | บานเที่ยง Pentapetes phoenicea |
|
|||
สำโรง Sterculia foetida | สำโรง Sterculia foetida | ปอบิด Helicteres isora |
ขามคัวะ P. semisagittatum |
โมลี | Sterculia pexa ปอบ้าน | S.villosa ปอตูบหูช้าง | S. balanghas ปอขนุน |
STRERLITZIACEAE(วงศ์กล้วยพัด) | |
STRERLITZIACEAE (STREL) |
ประกอบด้วย3สกุล 7ชนิด กระจายในเขตร้อนของทวีปอเมริกา แอฟริกาใต้และมาดากัสการ์เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวล้มลุก เนื้ออ่อนอายุหลายปีไม่ผลัดใบ มักแตกกอแน่น มีลำต้นสั้นอยู่ใต้ดินเมื่ออายุมากขึ้นจะมีเนื้อไม้ มีลำต้นเทียมโดยกาบใบอัดซ้อนกันแน่นหรือมีลำต้นแบบพืชทั่วไป ใบขนาดใหญ่คล้ายใบกล้วยแต่แข็งกว่า รูปขอบขนานถึงรูปหอก ใบเรียบ ช่อดอกออกที่กลางลำต้นมีขนาดใหญ่ เป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีกาบรองดอกหนาแข็ง เรียวแหลมและโค้งงอคล้ายรูปเรือ สีเขียวเรียงสลับในระนาบเดียวกัน ภายในมีดอกย่อยและเมล็ดจำนวนมาก เช่น ปักษาสวรรค์(สกุล Sterlitzia) กล้วยพัด (สกุลRavenala) |
ปักษาสวรรค์ดอกขาว S.nicolai | ปักษาสวรรค์ S. reginae |
S.nicolai | Ravenala madagascariensis | ดอกกล้วยพัด |
SYMPHOREMATACEAE | |
SYMPHOREMATACEAE (SYMPH) |
ไม้ ล้มลุก ไม้พุ่ม หรือไม้ต้น ลำต้นหรือกิ่งมักจะเป็นสี่เหลี่ยม ใบเรียงกันตรงข้าม หรือเป็นวงรอบ ใบเดี่ยว ช่อดอกมีหลายแบบมักเป็นแบบช่อกระจุก ดอกสมบูรณ์เพศหรือมีดอกเพศเดียวและดอกสมบูรณ์เพศร่วมต้น วงกลีบเลี้ยงมี5กลีบ กลีบดอกมีเท่ากับจำนวนกลีบเลี้ยง เกสรเพศผู้มี5 เกสรเพศเมีย 1 ผลเมล็ดแข็ง ได้แก่ พวงประดิษฐ์ (เครือออน) Congea tomentosa |
พวงประดิษฐ์(เครือออน) | ฮ่อสะพายควาย |
STRYCHNACEAE(วงศ์แสลงใจ) | |
STRYCHNACEAE (STRY) |
ไม้ ล้มลุก ไม้พุ่ม หรือไม้ต้น บางชนิเดเป็นไม้รอเลื้อย ใบเรียงตรงข้าม ดอกสมบูรณ์เพศ วงกลีบเลี้ยง4-5กลีบ หรือ10กลีบ เกสรเพศผู้มีจำนวนเท่ากันกับจำนวนกลีบดอก ผลแห้งแตกตามตะเข็บ หายากที่เป็นผลมีเนื้อหลายเมล็ด หรือผลเมล็ดแข็ง ได้แก่ แสลงใจ (ตูมกาขาว ตูมกาแดง) |
Strychnos nux-vomica |
Strychnos nux-blanda |
STYRACACEAE(วงศ์กำยาน) | |
STYRACACEAE (STYR) |
เป็นวงศ์ขนาดเล็กแต่มีการกระจายกว้างขวางทั่วโลกประมาณ760ชนิด เป็นไม้ไม่ผลัดใบขนาดเล็กหรือขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เปลือกต้นมีชันน้ำมัน กิ่งอ่อนและช่อดอกเป็นเหลี่ยม มีขนไม่หนาแน่นใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับ ใบอ่อนมีขนสีขาวสั้นๆด้านบนจะร่วงไปเมื่อใบแก่ ช่อดอกออกตามซอกใบและปลายกิ่ง มีทั้งช่อเดี่ยวและช่อแยกแขนง เป็นดอกสมบูรณ์เพศ สีขาว กลีบเลี้ยงโคนติดกันเป็นถ้วยเล็กๆ ปลายแยกเป็น5แฉกหลุดร่วงง่าย กลีบดอกมี5กลีบโคนติดกันเกสรผู้สีแสดอมเหลือง ผลกลมค่อนข้างแป้น กำยานสุมาตรา Styrax benzoides และ Styrax paralleloneurus กำยานญวน Styrax tonkinensis |
กำยานสุมาตรา Styrax benzoides | กำยานสุมาตรา | กำยานสุมาตรา |
กำยานญวน Styrax tonkinensis | กำยานญวน Styrax tonkinensis |
SYMPLOCACEAE(วงศ์เหมือดแก้ว) |
|
SYMPLOCACEAE (SYMP) |
เป็นวงศ์เล็กเขตศูนย์สูตรทั่วโลกมีประมาณ250ชนิด มีสกุลเดียวคือ สกุลเหมือดแก้ว ดังนั้นลักษณะต่างๆจะเป็นทำนองเดียวกัน พบกระจายประปรายในป่าดิบเขาน้อยที่จะอยู่ระดับต่ำกว่า1,000เมตร มีทั้งไม้ต้นและไม้พุ่ม เป็นไม้ไม่ผลัดใบ ใบเดี่ยวเรียงสลับหรือวนรอบ ขอบใบมักมีซี่หยัก ใบแห้งสีเหลืองหรือเหลืองอมเขียว ดอกสีขาวหรือเหลืองออกเป็นช่อเรียวแคบ ชั้นกลีบดอกเป็นหลอดสั้นๆปลายแยก5พูซ้อนกัน ผลเป็นผลสด ตัวอย่างพืชในวงศ์นี้ เหมือดหอม Symplocos racemosa เหมือดดอย Symplocos macrophylla Symplocos henschelii ssp. magnifera (เป็นไม้เฉพาะถิ่นของดอยอินทนนท์และเทือกเขาใกล้เคียงที่ระดับ1,400-1,800เมตร) เหมือดหลวง Symplocos cochinchinensis ssp.cochinchinensis |
เหมือดหอม | เหมือดหลวง | เหมือดดอย | Symplocos henschelii |
suansavarose.com 22/12/2010 |
visit : Bali Ijen Bromo Malang Tour 3D2N
THE ONE CARGO เป็นผู้ให้บริการ นำเข้าสินค้าจากจีน ที่ตอบสนองความต้องการและคุ้มค่ามากที่สุด โดยเรามีระบบออนไลน์ที่คุณสามารถส่งใบสั่งซื้อและติดตามความเคลื่อนไหวและเช็คเลขพัสดุจีนได้ตลอด 24 ชั่วโมง
Are you ready to embark on an unforgettable journey filled with incredible experiences? Start exploring things to do today and unlock a world of endless possibilities. Let's dive in and discover the best things to do together!"
การสร้างความสุขในชีวิตประจำวันไม่ใช่เรื่องยากเย็น มันเริ่มต้นจากการทำตามใจความปรารถนาของคุณ สร้างความสัมพันธ์ที่ดี ดูแลสุขภาพทางกายและจิต การตั้งเป้าหมายและการวางแผน และการทำงานในสิ่งที่คุณรัก ถ้าคุณทำตามข้อแนะนำเหล่านี้ คุณจะพบว่าความสุขในชีวิตประจำวันของคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างมีค่าและแท้จริง และความสุขของผมก็คือการเล่นเกมสล็อตออนไลน์ที่ slot 888 ที่นี่มีเกมสล็อตออนไลน์ให้ผมเลือกเล่นมากมาย เป็นเกมที่สนุกมาก ๆ เล่นเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่อเลย และเป็นเกมที่เล่นฟรีอีกด้วย
All the basic information about every celebrity is available now on the largest database of celeb networth where you can find all the information and net worth of a singer, actor, businessman...
หาเงินเข้ากระเป๋าไปกับเกมบาคาร่าออนไลน์ได้แล้ววันนี้ เนื่องจากเกมบาคาร่าออนไลน์เป็นเกมที่มีกติกาการเล่นที่ง่ายมากที่สุด ซึ่งหากคุณเป็นผู้เล่นมือใหม่คุณสามารถเข้ามาศึกษาข้อมูลการเล่นที่เว็บไซต์ของเราได้เลย เราพร้อมบอกต่อข้อมูลต่าง ๆ ที่ทำให้คุณเข้าใจรูปแบบการเล่นบาคาร่าออนไลน์ sa game มากยิ่งขึ้น เว็บไซต์ของเราเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ฟรีไม่มีค่าบริการและไม่ต้องสมัครสมาชิก
All your hard work is much appreciated. Nobody can stop to admire you. Lots of appreciation. Altaona Golf Property For Sale
I recently came across your blog and have been reading along. I thought I would leave my first comment. I don’t know what to say except that I have enjoyed reading. best acim podcast
I am definitely enjoying your website. You definitely have some great insight and great stories. Prostitutes in Pakistan
Awesome article! I want people to know just how good this information is in your article. It’s interesting, compelling content. Your views are much like my own concerning this subject. a course in miracles
Please continue this great work and I look forward to more of your awesome blog posts. apple watch band
I’ve been surfing online more than 5 hours today, yet I never found any interesting article like yours without a doubt. It’s pretty worth enough for me. Thanks... Туристичка виза за Нов Зеланд
What is an outstanding post! “I’ll be back” (to read more of your content). Thanks for the nudge! food at bugis junction to eat
I found your this post while searching for some related information on blog search...Its a good post..keep posting and update the information. livro um curso em milagres
Thanks for taking the time to discuss this, I feel strongly about it and love learning more on this topic. online file share
Best work you have done, this online website is cool with great facts and looks. I have stopped at this blog after viewing the excellent content. I will be back for more qualitative work. china restaurant